Uncategorized

ในบรรดาสิ่งที่ควรกังวลในผู้สูงอายุ ไม่ได้มีเพียงสุขภาพร่างกายเท่านั้นที่ต้องให้ความใส่ใจ เพราะอีกหนึ่งสิ่งที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย นั่นก็คือ ‘จิตใจ’ ที่ไม่แข็งแรงตามไปด้วย เป็นผลจากความวิตกกังวลที่มีต่อสภาพร่างกายที่เสื่อมโทรมลงตามอายุ จึงเรียกได้ว่าวัยสูงอายุเป็นวัยที่มีความอ่อนไหวทางด้านร่างกายและจิตใจ ในการดูแลจึงต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่าลูกหลานหลาย ๆ ท่านคงอยากให้ญาติผู้ใหญ่ของเรามีความสุขในบั้นปลายชีวิต ดังนั้นเพื่อให้ผู้สูงวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดีในบั้นปลาย บุคคลในครอบครัวถือว่าเป็นบทบาทสำคัญที่จะทำความเข้าใจปัญหาต่าง ๆ ของคุณตา คุณยาย เพื่อที่จะได้ดูแลได้อย่างเหมาะสม The Blessing จึงได้รวบรวมวิธี ดูแลผู้สูงอายุ ให้สุขภาพดีทั้งกายและใจ ผ่าน 8 เทคนิคง่าย ๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ทุกครอบครัว เมื่อร่างกายของผู้สูงวัยเริ่มเสื่อมตามกาลเวลา จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและเหมาะสมกับช่วงวัย หลังอวัยวะต่าง ๆ ทำงานน้อยลง ระบบย่อยอาหารมักจะเสื่อมการใช้งานไปด้วย ทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ง่าย ยังไม่นับรวมการบดเคี้ยวที่อ่อนแอลง ในเบื้องต้น ควรจัดสรรอาหารที่ย่อยง่าย เคี้ยวง่าย ลดการบริโภคในกลุ่มของแป้ง น้ำตาล ไขมัน รวมถึงอาหารประเภททอด ผัด เน้นเป็นโปรตีนจากเนื้อปลาเป็นหลัก และใช้วิธีประกอบอาหารเป็นการต้ม นึ่ง ย่าง อบ ที่สำคัญในกลุ่มผู้สูงอายุมีแนวโน้มขาดสารอาหาร โดยเฉพาะแคลเซียม สังกะสี และเหล็ก ซึ่งจะอยู่ในนม […]

สำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ อาจมีความกังวลใจเกี่ยวกับการดูแล เพราะแต่ละครอบครัวก็มีภาระที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะเรื่องเวลาที่เป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการดูแลบุพการีที่บ้าน ไม่สะดวกที่จะดูแลเอง แต่ก็ยังมีความกังวลหากจะส่งมอบพ่อแม่ให้ทางศูนย์พักฟื้นดูแล เพราะกลัวทางศูนย์จะดูแลไม่ดีเหมือนกับลูกดูแลพ่อแม่เอง ทำให้เป็นทางเลือกที่ตัดสินใจได้ยากมาก The Blessing Nursing Home & Rehab ในฐานะศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยและดูแลผู้สูงอายุเลยได้นำข้อมูลมาเรียบเรียงให้ทุกท่านเห็นถึงข้อดีและความแตกต่างว่าทำไมการอยู่ที่ศูนย์ดูแลคนชราดีกว่าอยู่ที่บ้านอย่างไร? ถ้าไม่สะดวกดูแล จ้างคนดูแลมาดูแลที่บ้านดีไหม? การจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงวัยที่บ้านถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ก็เป็นทางเลือกที่มีข้อจำกัดเช่นกัน สำหรับการจ้างผู้ดูแลมาดูแลที่บ้านจะมีข้อยกเว้นอยู่ตรงที่ ในกรณีที่ผู้ดูแลเป็นคนที่ผ่านการอบรมหลักสูตรตามปกติ เป็นผู้ช่วยพยาบาล จะไม่สามารถทำหน้าที่ต่อไปนี้ได้ โดยหน้าที่เหล่านี้เป็นหน้าที่ของพยาบาลเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีข้อเสียเรื่องค่าจ่ายแฝงอยู่ด้วย เช่น ค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าล่วงเวลา เพราะผู้ดูแลต้องอาศัยอยู่ในบ้าน 24 ชั่วโมง ศูนย์ดูแลคนชรา ดีกว่าอยู่บ้านจริงไหม เมื่ออ้างอิงจากมาตรฐานการดูแลของ The Blessing จะพบข้อได้เปรียบในการให้ผู้สูงอายุอยู่ในความดูแลของศูนย์ดูแลคนชราดังนี้ สำหรับผู้ดูแลไม่ว่าจะเป็นภายในศูนย์ มักจะเป็นผู้ช่วยพยาบาล ผู้ช่วยการพยาบาลเหมือนกัน แต่ที่แตกต่างคือภายในศูนย์จะมีพยาบาลประจำวอร์ด 24 ชั่วโมง และมีแพทย์เข้าตรวจเยี่ยมทุกสัปดาห์ หากต้องการพยาบาลดูแล 24 ชั่วโมง ทาง The Blessing ก็มีบริการเพิ่มเติมเช่นกัน ภายในศูนย์มีการรักษาความปลอดภัยอย่างดี

เมื่อกล่าวถึง “บ้านพักคนชรา” เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่เมื่อได้ยินคำนี้จะมีความคิดในแง่ลบผุดขึ้นมาทันที เพราะในความคิดของคนทั่วไปอาจมองว่าบ้านพักคนชรา เปรียบเสมือนเป็นสถานที่ของผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้งจากลูกหลาน เป็นบุคคลที่คนในครอบครัวไม่ต้องการดูแล เรียกได้ว่า “บ้านพักคนชรา” นั้นไม่ต่างอะไรกับสถานที่ที่ไม่มีผู้สูงอายุคนไหนอยากไปพักอาศัย แต่ความเป็นจริงแล้วบ้านพักคนชราหลาย ๆ แห่งในปัจจุบัน ไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนเข้าใจผิด ดังนั้นในบทความนี้ทาง The Blessing จึงมาไขข้อกระจ่างจากเรื่องเข้าใจผิดที่หลาย ๆ คนมีต่อบ้านพักคนชรา บ้านพักคนชราไม่ใช่สถานที่สำหรับผู้สูงวัยที่ถูกทอดทิ้งเสมอไป แน่นอนว่าบ้านพักคนชราไม่ใช่สถานที่สำหรับผู้สูงวัยที่ถูกทอดทิ้งตามที่กล่าวไปข้างต้น เพราะการที่จะเข้าพักในบ้านพักคนชรา ไม่ได้หมายความว่าสามารถทำได้ทุกคน เนื่องจากขั้นตอนของบ้านพักคนชราหรือ Senior Living ในปัจจุบัน จะต้องได้รับการพูดคุย คัดกรองระหว่างผู้เข้าพักกับทางเจ้าหน้าที่ศูนย์เสียก่อน นอกจากนั้นยังจะต้องผ่านขั้นตอนการยืนยันในการเข้าพักอีกด้วย เท่ากับว่าในการเข้าพักที่บ้านพักคนชรา เป็นการยินยอมของผู้สูงวัยและครอบครัวนั่นเอง Nursing Home และ Senior Living ไม่เหมือนกัน ศูนย์พักฟื้น (Nursing Home) และ (Senior Living) มีความแตกต่างกันโดนสิ้นเชิง เพราะศูนย์พักฟื้นคือสถานที่สำหรับพักฟื้น ฟื้นฟู ดูแลคนชราหรือคนไข้ที่มีอาการเจ็บป่วย พักฟื้นหลังผ่าตัด ต้องการดูแลเป็นพิเศษ ในขณะที่บ้านพักคนชรา จะเป็นห้องชุด บ้านพัก คอนโดสำหรับผู้สูงอายุที่มีร่างกายแข็งแรง ต้องการที่รองรับซึ่งออกแบบมาเพื่อชาวสูงวัยโดยเฉพาะ

เคยได้ยินคุณปู่ คุณย่าที่บ้านบ่นไหมว่ารู้สึกปวดเข่า ปวดขา เดินไม่ไหว? ที่ดูเหมือนจะเป็นการพร่ำบ่นธรรมดา แต่แท้จริงแล้วเป็นอาการที่เราควรใส่ใจ เพราะมันเป็นสัญญาณของภาวะ ‘โรคข้อเข่าเสื่อม’ ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ อาการของโรคข้อเข่าเสื่อม หากมีอาการปวดเข่าอยู่บ่อยครั้ง มักจะรู้สึกปวดแบบเป็น ๆ หาย ๆ เป็นระยะเวลาติดต่อกันราว ๆ 6 เดือน หรือรู้สึกปวดเวลาเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น เดินนาน ๆ, พับเพียบ, นั่งยอง ถือว่ามีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม เชื่อว่าหลาย ๆ คนมักมองข้ามอาการเหล่านั้น คิดแค่ว่าปวดก็แค่นั่งพัก กินยาแก้ปวดเดี๋ยวก็หาย นั่นเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง การปล่อยให้ความเจ็บปวดเกิดขึ้นนาน ๆ จะทำให้เป็นปวดเรื้อรังและปวดมากขึ้นกว่าเดิม การที่รู้สึกว่าเข่าฝืดตึง เข่าติดนั้นมักจะพบในตอนเช้า หรือหลังจากตื่นนอน จะสังเกตได้ว่าบริเวณข้อเข่าไม่สามารถยืดเหยียดได้สะดวก และไม่สามารถงอเข่าได้เต็มที่ ทำให้การเคลื่อนไหวเป็นไปได้อย่างลำบาก การได้ยินเสียงกรอบแกรบในข้อเข่าระหว่างเคลื่อนไหว เกิดจากข่อเข้าเริ่มสึกตัว จนเกิดการเสียดสีของเยื่อบุภายในหรือเอ็นที่หนาตัวขึ้น กระดูกอ่อนที่ปลายหัวกระดูกสึกตัวจนขรุขระ ทำให้เกิดเสียงและมักมีอาการปวดเข่าร่วมด้วย อาการนี้สามารถสังเกตได้จากเวลาคลำหัวเข่า จะรู้สึกได้ว่าหัวเข่าแข็งและข้อเข่ามีความหนา ของอุณหภูมิบริเวณนั้นจะสูงผิดปกติ มีอาการเจ็บเมื่อใช้มือกด มีอาการเสียวหัวเข่าเวลาเดินหรือมีการเคลื่อนไหว เป็นผลจากความบกพร่องของส่วนประกอบของข้อ เช่น ข้อเข่าหลวม กล้ามเนื้อต้นขาอ่อนแรง

‘หัวใจ’ เป็นอวัยวะที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางการทำงานของร่างกาย มีหน้าสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่ายกาย ดังนั้นเมื่อมีเหตุให้หัวใจทำงานผิดปกติไป อวัยวะส่วนอื่น ๆ ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย อาการเช่นนี้เรียกกันว่า โรคหัวใจ หรือ heart disease เป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจ โดยความผิดปกติแตกต่างกันไป ทำให้โรคหัวใจถูกแยกย่อยออกเป็นหลายประเภท เช่น โดยสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ ‘โรคหัวใจ’ ยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทย ส่วนมากเกิดจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต อาทิ ขาดการออกกำลังกาย มีน้ำหนักที่เกินเกณฑ์ ซึ่งเป็นปัจจัยให้เกิดโรคเหล่านี้ เมื่อหัวใจทำงานผิดปกติหรือไม่สามารถทำงานได้เต็มศักยภาพ ระบบอวัยวะต่าง ๆ เกิดความเสียหาย และนานวันเข้าย่อมเกิดวิกฤตด้านสุขภาพ โดยเฉพาะเมื่อคุณเป็น‘โรคหัวใจขาดเลือด’ โรคหัวใจขาดเลือด คือภาวะหลอดเลือดแดงแข็งและมีรอยปริของผนังหลอดเลือด ทำให้มีลิ่มเลือดและไขมันมาเกาะที่ผนังและก่อตัวเป็นตะกอน จนเกิดการอุดตันของหลอดเลือด ส่งผลให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ หากรุนแรงหรือเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน อาจส่งผลร้ายถึงขั้นเสียชีวิต สาเหตุของโรคหัวใจขาดเลือด อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือด ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ทำร้ายร่างกาย ทั้งการสูบบุหรี่จัด ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป รับประทานอาหารที่ไขมันสูง มักมีอาการความดันโลหิตสูงควบคู่กันไป สัญญาณเตือนโรคหัวใจขาดเลือด ในหลาย ๆ ครั้ง อาการเหล่านี้อาจมีความใกล้เคียงกับโรคอื่น ๆ และแยกได้ลำบาก

หลังจากประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัว ตามมาด้วยความกังวลของหลาย ๆ คนเกี่ยวกับการใช้ชีวิตบั้นปลายของวัยชรา แม้ว่าในยุคปัจจุบันการต้องอาศัยอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องน่าเหงาอีกต่อไป ในกรณีที่ผู้สูงวัยสามารถดำรงกิจวัตรประจำวันด้วยตัวเองได้ แม้กระทั่งในบางเคสที่ผู้สูงอายุมีครอบครัว ญาติ ช่วยดูแลอยู่แล้ว แต่ในกรณีที่ญาติมีงานประจำ ไม่สามารถให้การดูแลได้ตลอดเวลา ก็ยังถือว่าเป็นข้อน่ากังวลสำหรับสังคมผู้สูงอายุที่มีแต่จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นที่มาของศูนย์พักฟื้น ฟื้นฟู ดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่มากมากหลายแห่งในปัจจุบัน เพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัยที่เติบโตขึ้นรวมถึงการดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด, ผู้ป่วย Stroke, ผู้ป่วยติดเตียง ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของคุณตาคุณยายที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว หรือในแง่ของผู้สูงอายุที่ลูกหลานติดภารกิจต่าง ๆ ทำให้ไม่สามารถดูแลได้เต็มที่ หรือในบางกรณีของผู้ป่วยหลังผ่าตัด, ผู้ป่วย Stroke, ผู้ป่วยติดเตียง ที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดและต้องอาศัยผู้ดูแลที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง ทำให้ครอบครัวและญาติบางส่วนตัดสินใจใช้บริการศูนย์พักฟื้นที่มีทีมหมอ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติหน้าที่อยู่เป็นผู้ดูแล แต่การส่งผู้ป่วย,ผู้สูงอายุ ให้อยู่ในการดูแลของศูนย์พักฟื้น อาจทำให้ครอบครัวและผู้ป่วย,ผู้สูงอายุเกิดความรู้สึกไม่สบายใจ โดยเฉพาะในด้านของผู้ป่วยเองที่ไม่ได้อยู่ในความดูแลของคนใกล้ชิดหรือคนคุ้นเคย ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเครียดในท้ายที่สุด และบางสถานศูนย์พักฟื้นก็ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องยกเว้นผู้ป่วย เข้ามาอาศัยอยู่ภายในศูนย์ ศูนย์พักฟื้นสามารถให้ญาติหรือผู้ดูแลมาอาศัยด้วยได้ไหม? การนำญาติหรือผู้ดูแลมาอยู่ภายในศูนย์พักฟื้นกับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ เป็นกฎและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไปแต่ละศูนย์ บางศูนย์อาจะไม่อนุญาต หรือบางศูนย์อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่สำหรับ The Blessing Nursing Home & Rehab เป็นศูนย์พักฟื้นสำหรับผู้ป่วย,ผู้สูงอายุที่ต้องการให้ญาติเข้าอยู่ด้วยได้ โดยทางศูนย์อนุญาตให้ญาติหรือผู้ดูแลเข้ามาอยู่อาศัยภายในศูนย์พร้อมกับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 1 คน โปรแกรมฟื้นฟูผู้ป่วยและดูแลผู้สูงอายุของศูนย์พักฟื้น

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ราคาเท่าไหร่ 01

แนะนำศูนย์ดูแลและฟื้นฟูผู้ป่วยพักฟื้น The Blessing Nursing Home & Rehab ให้บริการดูแลและฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke และผู้ป่วยหลังผ่าตัด และโปรแกรมบริการด้านอื่น ๆ อาทิเช่น – Elderly Care ดูแลผู้สูงอายุ – Rehabilitation ฟื้นฟูหลังผ่าตัด – Stroke Recovery ฟื้นฟูโรคหลอดเลือดสมอง – Bed-ridden ดูแลผู้ป่วยติดเตียง รับดูแลและพักฟื้นระยะสั้นและระยะยาว ไม่จำเป็นต้องเซ็นสัญญาเข้าใช้บริการเป็นเวลาหลายเดือน เพียงเดือนเดียวก็เข้ารับการฟื้นฟูได้ ระยะเวลาสามารถเลือกได้จากความต้องการของญาติและผู้เข้าพัก ทั้งนี้ควรปฏิบัติตามดุลยพินิจและการวินิจฉัยของแพทย์ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นหลัก The Blessing เป็นศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยและดูแลผู้สูงอายุขนาดใหญ่ ทันสมัยและครบวงจร ตั้งอยู่ในย่านศรีนครินทร์ มีจุดเด่นที่บริเวณกว้างขวาง ปลอดโปร่ง ไม่แออัด รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวมากถึง 2,000 ตารางเมตร เป็นพื้นที่สำหรับการผ่อนคลายและทำกิจกรรมท่ามกลางธรรมชาติ ทางศูนย์มีบุคลากรที่พร้อมดูแลผู้ป่วยด้วยความใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นทีมแพทย์ พยาบาล โภชนากร และนักกายภาพที่มากความสามารถและประสบการณ์จากทาง Bonefit เพื่อประสิทธิภาพในการฟื้นฟูที่รวดเร็วของผู้ป่วย นอกจากนั้นทางศูนย์ยังให้ความสำคัญในด้านสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก ห้องพักอาศัยจึงถูกออกแบบมาในลักษณะ Universal

การพักฟื้นและฟื้นฟูร่างกายเป็นขั้นตอนหลังการผ่าตัดที่สำคัญ เพราะร่างกายต้องอาศัยเวลาพักฟื้นเพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยระยะเวลาพักฟื้นในแต่ละส่วนที่ทำการผ่าตัดก็จะมีเวลาที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ไม่กี่อาทิตย์ไปจนถึงระยะเวลาหลายเดือน โดยเฉพาะการผ่าตัดใหญ่ที่อาจใช้เวลาสำหรับฟื้นฟูร่างกายค่อนข้างนาน เพราะนอกจากจะต้องอยู่พักฟื้นเพื่อดูอาการที่โรงพยาบาล ยังต้องกลับไปพักฟื้นที่บ้านให้ร่างกายกลับมาสมบูรณ์และแข็งแรง 100%  การผ่าตัดเล็ก เป็นการผ่าตัดที่ไม่ได้กระทบกับส่วนภายในของร่างกาย ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องรับยาชาหรือยาระงับความรู้สึก แต่ในบางกรณีอาจต้องรับยาระงับความรู้สึกในระยะสั้น และไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลหลังผ่าตัด เมื่อทำการผ่าตัดแล้วสามารถกลับไปดูแลแผลที่บ้านและใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้เลย ตัวอย่างการผ่าตัดเล็ก การผ่าตัดริดสีดวงทวารหนัก การผ่าตัดหูด การเจาะชิ้นเนื้อทรวงอก การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย การผ่าตัดต้อกระจก การผ่าตัดใหญ่ เป็นการผ่าตัดที่แพทย์ต้องทำหัตถการหลายขั้นตอนในระหว่างผ่าตัด อาจจะหมายถึงการเปิดโพรงบางส่วนในอวัยวะ การตัดอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งออกไป มีการใช้ยาระงับความรู้สึกหรือเครื่องช่วยหายใจ โดยสำหรับการผ่าตัดใหญ่เช่นนี้จะใช้เวลาพักฟื้นหลายวันในโรงพยาบาล ผู้ป่วยส่วนมากจะมีอาการดีขึ้นในระหว่างสัปดาห์ที่ 2-3 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่ายกาย และชนิดของการผ่าตัด เพราะบางครั้งผู้ป่วยบางรายอาจต้องพักฟื้นหลังผ่าตัดนานถึง 4-8 สัปดาห์หรือหลักหลายเดือนขึ้นไป ตัวอย่างการผ่าตัดใหญ่ การศัลยกรรมตกแต่ง การปลูกถ่ายอวัยวะ การผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ การผ่าตัดช่องท้อง การผ่าตัดเนื้อเยื้อส่วนลึก การผ่าตัดลำไส้ การผ่าตัดหัวใจ ตามที่กล่าวไปข้างต้น ระยะเวลาการพักฟื้นหลังผ่าตัด ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและประเภทของการผ่าตัด ขั้นตอนการพักฟื้นของแต่ละคนจึงมีระยะเวลาที่แตกต่างกัน ทั้งนี้แพทย์จะทำการวินิจฉัยและแนะนำ รวมถึงขั้นตอนการฟื้นฟูและดูแลต่าง ๆ ตามแต่ละเคส 

โรคสมองเสื่อม แม้ไม่ได้ประสบกับปัญหาภาวะอัลไซเมอร์ แต่อาการสำคัญที่บ่งบอกถึงความชราและมักมาพร้อมกับผู้สูงอายุหลาย ๆ ราย นั่นก็คืออาการหลง ๆ ลืม ๆ คิดช้า ตัดสินใจช้ากว่าปกติมากกว่าตอนที่ยังเป็นหนุ่ม-สาว ซึ่งเป็นเรื่องปกติของผู้สูงวัยที่มักเกิดภาวะสมองเสื่อมและความจำถดถอย ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันไม่มากก็น้อย  เพราะฉะนั้นเมื่อย่างเข้าสู่วัยชราแล้ว ผู้สูงอายุควรได้รับการกระตุ้นและฝึกสมอง เพื่อรักษาระดับความสามารถสมองให้คงที่ ไม่ถดถอย รวมถึงในด้านของการคิด คำนวณ ความจำ สมาธิ การเรียนรู้ต่าง ๆ ที่สามารถฝึกกระตุ้นสมองด้วยตนเองได้ง่าย ๆ ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รู้หรือไม่ว่าการออกกำลังกายไม่ได้มีประโยชน์กับร่างกายเท่านั้น เพราะการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจให้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ร่างกายสูบฉีดเลือดขึ้นไปเลี้ยงสมองได้อย่างพอเพียง และจะทำให้สมองของเราทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย มีปฏิสัมพันธ์เป็นประจำ การได้พูดคุย พบปะ ทำกิจกรรมกับผู้อื่นถือเป็นการลับสมองอีกทาง เพราะในระหว่างที่เราสนทนากันสมองจะทำงานเพื่อคิดหาคำตอบโต้ให้บทสนทนาลื่นไหล ทั้งยังช่วยให้จิตใจแจ่มใส เนื่องจากผู้สูงวัยได้มีการเข้าสังคม ไม่ต้องนั่งเหงาอยู่ที่บ้าน อ่านหนังสือกระตุ้นสมอง การอ่านหนังสือไม่ใช่จะได้รับเพียงความบันเทิงเท่านั้น เพราะระหว่างที่กำลังอ่าน ผู้สูงวัยจะได้ใช้สมองเพื่อจินตนาการ คิด วิเคราะห์ไปตามเนื้อเรื่อง ซึ่งเป็นการช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองได้เป็นอย่างดี เล่นเกมฝึกสมอง สำหรับเกมฝึกสมองควรเน้นเป็นเกมที่ใช้ภาพหรือไอคอนแบบง่าย ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำของผู้สูงอายุ จะช่วยในด้านของความจำและกระตุ้นการทำงานของสมอง และยังส่งผลดีต่อสภาพจิตใจ เพราะเมื่อใดที่ผู้สูงอายุสามารถเล่นเกมได้ก็จะรู้สึกมั่นใจในตัวเองขึ้นมา ตรวจเช็กร่ายกายเป็นประจำ การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งที่ควรทำ โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่มักมาพร้อมโรคประจำตัว