Stroke โรคหลอดเลือดสมองหรือ คือภาวะสมองขาดเลือดที่เกิดจากหลอดสมองตีบ อุดตันหรือมีเลือดออกในสมอง ทำให้เส้นเลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้ บางกรณีอาจส่งผลให้เซลล์สมองขาดออกซิเจน ทำให้สมองตาย สำหรับผู้ป่วยที่เป็น Stroke เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น โรคเรื้อรังที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ ความดันโลหิต ไขมันในเลือดสูง
จะเห็นได้ว่าปัจจัยที่อาจทำให้เกิดโรคหัวใจมีทั้งปัจจัยเสี่ยงที่ป้องกันได้และป้องกันไม่ได้ ดังนี้
ปัจจัยเสี่ยงที่ป้องกันได้ – พฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน เช่น การเลือกรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย ที่จะกลายเป็นโรคประจำตัวซึ่งส่งผลกระทบต่อหลอดเลือด อย่าง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือการรับเอาสารนิโคตินจากบุหรี่ ทำให้เลือดแข็งตัว ก็เป็นการเพิ่มปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองมากขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงที่ป้องกันไม่ได้ – อายุ เพศ การเสื่อมสภาพของอวัยวะในร่างกาย เพศชายมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าเพศหญิง
ในผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคหลอดเลือดสมองแล้ว มีความเสี่ยงที่อาจกลับมาเป็นซ้ำได้มากกว่าคนปกติ การดูแลรักษาและป้องกันการเกิดซ้ำสองของโรคหลอดเลือดสมอง ควรเริ่มต้นจากการควบคุมพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อลดปัจจัยเสี่ยง รวมถึงการพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อการรักษาที่ต่อเนื่อง
- ควบคุมและลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดการกำเริบของโรคหลอดเลือดสมอง เช่น โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันสูง โรคเบาหวาน ต้องควบคุมด้วยการเลือกรับประทานอาหาร งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ที่เป็นตัวเร่งกระตุ้นให้เกิดโรค
- ในการพบแพทย์แต่ละครั้ง แพทย์จะทำการประเมินอาการและจะมีการพิจารณาให้ยาต้านเกล็ดเลือดหรือยาละลายลิ่มเลือด เพื่อให้ลิ่มเลือดละลายไม่ไปอุดตันหลอดเลือดสมอง
แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการของโรค Stroke ซ้ำ ๆ ก็มีความจำเป็นจะต้องรับประทานยาต้านเกล็ดเลือดหลายชนิดร่วมกัน ดังนั้นเพื่อนความปลอดภัยผู้ป่วยควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด สำหรับการประเมินเพื่อหาแนวทางในการรักษาที่สมควร