การจัดอาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวานความจริงแล้วไม่ได้เป็นอาหารชนิดพิเศษที่แตกต่างจากคนทั่วไปรับประทาน แต่ขึ้นอยู่กับการควบคุมปริมาณในแต่ละมื้ออาหารอย่างเหมาะสม รวมถึงการใส่ใจและระมัดระวังในการเลือกอาหาร ต้องคำนึงถึงปริมาณของน้ำตาล แป้ง และรสชาติที่ไม่ควรหวานจัด โดยเฉพาะไขมันที่เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาล ไขมันในเลือด และน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ในแต่ละมื้อผู้ป่วยเบาหวานจึงควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ได้โภชนาการที่ครบถ้วน ได้รับสารอาหารและพลังงานเพียงพอ แต่ไม่เกินความต้องการของร่างกาย ซึ่งการจัดอาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวานจะแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

อาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลในปริมาณมาก : คุกกี้ ไอศกรีม เค้ก ช็อกโกแลต ขนมไทย เช่น ทองหยิบ ทองหยอด
เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล : น้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำปรุงแต่งรส น้ำผลไม้สำเร็จรูป เครื่องดื่มชูกำลัง
ผลไม้เชื่อม : ที่ผ่านการกวน ดอง แช่อิ่ม ตากแห้ง อบน้ำผึ้ง รวมถึงผลไม้กระป๋อง
อาหารที่รับประทานได้แต่ควรกำหนดปริมาณ

แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง : ข้าว ขนมปัง เผือก มัน บะหมี่ วุ้นเส้น อาหารกลุ่มนี้จะถูกร่างกายดูดซึมไปเพื่อใช้พลังงาน ถ้าหากเกินความต้องการร่างกายจะเปลี่ยนจากพลังงานน้ำตาลเป็นไขมันโดยอัตโนมัติ สัดส่วนอาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน คือ แป้ง 1 ส่วน เช่น ข้าว 1 ทัพพี
โปรตีน : นม เนย ชีส ถ้ารับประทานมากเกินไปอาจทำให้การทำงานของไตมีปัญหาจากการย่อยสลายโปรตีน ปริมาณที่เหมาะสมคือ 2-5 ส่วน/วัน ประมาณเนื้อสัตว์ 2 ช้อนโต๊ะ
ไขมัน : น้ำมันพืช มาการีน กะทิเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้เกิดโรคอ้วน หัวใจ ความดันโลหิตสูง แนะนำให้หลีกเลี่ยงไขมันสัตว์ เปลี่ยนมาบริโภคไขมันดีแทน เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก อโวคาโด ประมาณ 1 ส่วน / วัน เช่นน้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ
ผลไม้ : อุดมไปด้วยกากใย วิตามิน เกลือแร่ แต่ยังมีปริมาณน้ำตาลที่สูง จำกัดการรับประทานไม่เกิน 3 ส่วน / วัน ควรเป็นผลไม้สด ไม่ผ่านการเชื่อม ดอง อย่างส้มเขียวหวาน 1 ลูก มะละกอสุก 7-8 คำ
เกลือ : แนะนำรับประทานไม่เกิน 2000 มิลลิกรัม/วัน เพื่อหลีกเลี่ยงอาการความดันโลหิตสูง เช่น บะหมี่สำเร็จรูป อาหารหมักดอง
อาหารที่รับประทานได้ตามต้องการ

ส่วนมากเป็นอาหารที่ให้พลังงานต่ำและมีกากใยสูง เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
ผัก : ผักใบเขียวทุกชนิด
เครื่องเทศ : กระเทียม พริกไทย
ชา กาแฟ : ที่ไม่มีส่วนประกอบของน้ำตาล จำพวก ชาอู่หลง กาแฟดำ แต่ไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 แก้ว เนื่องจากมีสารคาเฟอีน
เครื่องปรุง : อย่าง มะนาว น้ำส้มสายชู
ตัวอย่างการจัดอาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวานต่อหนึ่งวัน

อาหารเช้า
ข้ามต้มกุ้งหรือหมูสับ 1 ชาม + มะละกอ 5-6 คำ + กาแฟดำ 1 แก้ว
อาหารกลางวัน
ก๋วยเตี๋ยวแห้งหรือน้ำ 1 ชาม + สลัดผัก 1 จาน + ส้มเขียวหวาน 1 ลูก + ชาไม่ใส่น้ำตาล 1 แก้ว
อาหารเย็น
ข้าวกล้อง 1 ทัพพี + แกงจืดตำลึงเต้าหู้หมูสับ + ผักลวก 1 จาน + องุ่น 10 ผล
ทั้งนี้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถรับประทานอาหารตามต้องการได้ปกติ แต่การเลือกอาหารที่เหมาะสมกับโรคในการรับประทาน จะช่วยให้ร่างกายสามารถรักษาระดับน้ำตาลได้คงที่ เพื่อสุขภาพที่ดีและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อนอย่าง โรคหลอดเลือดตีบตัน หรือโรคหัวใจ